ที่มีประสิทธิภาพ หุ้น Trading กลยุทธ์

กลยุทธ์การซื้อขายวันสำหรับผู้เริ่มต้นขั้นตอนที่ 5 การกดปุ่มกำไรประจำวันกำไรเป้าหมายขาดทุนขั้นตอนที่ 6 รักษาความถูกต้องของคุณโดยการมีวินัยขั้นตอนที่ 7 การเพิ่มขนาดตำแหน่งตรวจสอบสถิติการซื้อขายของฉันในปี 2016 เรียนรู้เคล็ดลับการซื้อขายวันของฉันและเทคนิคที่คุณต้องเข้าใจ คำศัพท์เกี่ยวกับการซื้อขายคำศัพท์พื้นฐานในการสร้างรากฐานของคุณ คุณสามารถติดตามฉันบน Youtube เพื่อรับการศึกษาฟรีเข้าร่วมชุมชนของผู้ติดตามนับพันบน YouTube และเริ่มศึกษาเนื้อหาฟรีที่เราโพสต์ในแต่ละวัน นี่คือจุดเริ่มต้นของการศึกษาของคุณ คุณจำเป็นต้องศึกษาตลาดวิเคราะห์แผนภูมิและเรียนรู้กลยุทธ์ที่ traders มืออาชีพกำลังใช้ทุกวัน พ่อค้ารายวันเป็นสองสิ่งคือนักล่าความผันผวนและผู้จัดการความเสี่ยง การซื้อขายหลักทรัพย์เป็นเพียงการซื้อหุ้นของหุ้นที่มีเจตนาในการขายหุ้นดังกล่าวเพื่อหาผลกำไรภายในไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมง เพื่อที่จะทำกำไรในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ผู้ค้ามักมองหาหุ้นที่ผันผวน ซึ่งมักจะหมายถึงการซื้อขายหุ้นของ บริษัท ที่เพิ่งเปิดตัวข่าวรายได้ที่รายงานหรือมีตัวเร่งปฏิกิริยาพื้นฐานอื่นที่เป็นผลให้ความสนใจค้าปลีกสูงกว่าค่าเฉลี่ย ประเภทของหุ้นผู้ประกอบการรายวันจะมุ่งเน้นโดยปกติจะแตกต่างจากสิ่งที่นักลงทุนระยะยาวจะมองหา ผู้ค้ารายวันตระหนักถึงความเสี่ยงสูงเกี่ยวกับการซื้อขายตลาดที่ผันผวนและลดความเสี่ยงเหล่านั้นโดยถือครองตำแหน่งเป็นระยะเวลาสั้น ๆ การซื้อขายวันที่มีการจ่ายเงินสดกับ Margin Trading Margin คือเมื่อคุณซื้อขายด้วยเงินที่ยืมมา (คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด) ตัวอย่างเช่นผู้ค้ารายวันที่มีบัญชีซื้อขาย 25k อาจใช้อัตรากำไร (กำลังซื้ออยู่ที่ 4 เท่าของยอดเงินสด) และซื้อขายได้ราวกับว่าเขามี 100k นี่ถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากบัญชีของคุณ ถ้าหากเขาสามารถทำกำไรได้ 5 วันหากซื้อพลังงาน 100k เขาจะเพิ่มเงินสด 25k ในอัตรา 20 ต่อวัน ความเสี่ยงแน่นอนคือเขาจะทำผิดพลาดซึ่งจะทำให้เขาเสียค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โชคชะตานี้เป็นชะตากรรมของ 9 ใน 10 ผู้ค้า สาเหตุของความผิดพลาดในอาชีพเหล่านี้คือความล้มเหลวในการจัดการความเสี่ยง การซื้อขายกับเงินสดเป็นตัวเลือก แต่เนื่องจากต้องใช้เวลา 3 วันสำหรับการค้าแต่ละประเภทเพื่อชำระบัญชีผู้ค้าส่วนใหญ่จะทำการซื้อขายกับบัญชีกำไร แต่เลือกที่จะไม่ใช้การคานวณ นี่เป็นเทคนิคการบริหารความเสี่ยง กลยุทธ์การซื้อขายวันทั้งหมดต้องมีการจัดการความเสี่ยงลองนึกภาพผู้ประกอบการค้ารายใหม่ที่ประสบความสำเร็จ 9 ราย ในแต่ละการค้ามีความเสี่ยง 50 และมีกำไร 100 ราย ซึ่งหมายความว่าการค้าแต่ละครั้งมีศักยภาพในการเพิ่มความเสี่ยงให้เป็นสองเท่าซึ่งเป็นอัตราส่วนผลกำไรที่ดี 2: 1 9 ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับแรกทำกำไรได้ 900 เมื่อวันที่ 10 การค้าเมื่อตำแหน่งลดลง 50 แทนการสูญเสียผู้ประกอบการค้าที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมซื้อหุ้นเพิ่มในราคาที่ต่ำกว่าเพื่อลดต้นทุนของเขา เมื่อเขาอายุ 100 ปีเขายังคงถือหุ้นอยู่และไม่แน่ใจว่าจะถือหรือขายหรือไม่ พ่อค้าคนสุดท้ายจะสูญเสียเมื่อเขาลง 1,000 นี่เป็นตัวอย่างของพ่อที่มีอัตราความสำเร็จ 90 แต่ยังคงเป็นพ่อค้าที่สูญเสียเนื่องจากไม่สามารถจัดการความเสี่ยงได้ ฉันจะบอกคุณได้กี่ครั้งว่า I8217ve เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น It8217s พบได้บ่อยกว่าที่ฉันคิดว่า you8217d คิด ดังนั้นผู้เริ่มต้นจำนวนมากตกอยู่ในนิสัยของการมีผู้ชนะจำนวนมากขนาดเล็กนี้แล้วปล่อยให้หนึ่งสูญเสียมากเช็ดความคืบหน้าทั้งหมดของพวกเขา It8217s ประสบการณ์ที่ทำให้เสียโฉมและ it8217s ที่ I8217m คุ้นเคยมากกับเราจะพูดถึงรายละเอียดวิธีระบุหุ้นและหาโอกาสทางการค้าที่ดี แต่ก่อนอื่นเราจะเน้นการพัฒนาความเข้าใจในการบริหารความเสี่ยง การค้าทุกวันจำเป็นต้องสูญเสียสูงสุด (Cap ขาดทุนของคุณ) กว่าปีของฉันเป็นพ่อค้าและเป็นโค้ชการค้าฉันได้ทำงานร่วมกับนักเรียนหลายพันคน ส่วนใหญ่ของนักเรียนเหล่านั้นประสบความสูญเสียร้ายแรงในบางช่วงเวลาเนื่องจากความผิดพลาดที่หลีกเลี่ยงได้ เข้าใจได้ง่ายว่าพ่อค้าจะตกอยู่ในตำแหน่งของการเรียกมาร์จิน (เป็นหนี้กับนายหน้าของคุณได้อย่างไร) เงินที่ใช้ในการทำกำไรได้ง่ายและความมีเสน่ห์ของผลกำไรที่รวดเร็วสามารถนำไปสู่ผู้ค้ารายใหม่และผู้ค้าเก๋าทั้งที่ไม่สนใจกฎการจัดการความเสี่ยงที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป 10 ของพ่อค้าที่มีกำไรอย่างต่อเนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดหนึ่งทักษะทั่วไป พวกเขาฝาครอบขาดทุนของพวกเขา พวกเขายอมรับว่าแต่ละการค้ามีระดับความเสี่ยงที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและเป็นไปตามกฎที่กำหนดสำหรับการค้านั้น นี่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การซื้อขายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อปรับค่าความเสี่ยงของตนเองให้กับผู้ค้ารายย่อยเพื่อรองรับตำแหน่งที่ขาดทุน ถ้าเช่นพวกเขากล่าวว่าหยุดคือ 50 เมื่อพวกเขาจะลง 60 พวกเขากล่าวว่าพวกเขาจะถือเพียงไม่กี่นาที ก่อนที่คุณจะรู้ว่าพวกเขากำลังมองหาที่สูญเสีย 80-100 และพวกเขากำลังสงสัยว่ามันเกิดขึ้น เรียนรู้การซื้อขายวันจากผู้ประกอบการที่ผ่านการตรวจสอบแล้วฉันทำ 94,119.54 เทรดดิ้งวันเพียง 3 เดือน 2 เรียนรู้กลยุทธ์ด้านการซื้อขายสูงสุด 2 วันกลยุทธ์การซื้อขายโมเมนตัมและการกลับรายการเป็น 1 และ 2 กลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุดออกมี กลยุทธ์การซื้อขายสองวันนี้มีการใช้โดยนักเรียนหลายพันคนของเราที่เข้าร่วมหลักสูตร Trading Warrior Trading Day Trading ในความเป็นจริงในการสำรวจของ 100 ของนักเรียนเหล่านี้กว่า 80 กำลังซื้อขายผลกำไรด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ (คลิกที่นี่สำหรับรายละเอียดการสำรวจ) กลยุทธ์เหล่านี้สามารถเป็นพื้นฐานสำหรับการวางแผนการค้า 200 วันของคุณ เราสอนรายละเอียดทั้งหมดของกลยุทธ์เหล่านี้ในหลักสูตรการซื้อขายวันของเรา แต่เรายังครอบคลุมพวกเขาโดยสรุปในบทความบล็อกต่างๆและในห้องสนทนา QampA เซสชัน คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การซื้อขายเดี๋ยวนี้โมเมนตัมและยุทธศาสตร์การซื้อขายวันย้อนกลับของฉัน ในระยะสั้นทั้งสองกลยุทธ์นี้จะให้กรอบสำหรับสิ่งที่ประเภทของหุ้นในการซื้อขายสิ่งที่เวลาของวันเพื่อการค้าการค้นหาหุ้นเพื่อการค้าวิธีการตั้งค่าการสูญเสียหยุดของคุณมีความเสี่ยงสูงสุดและวิธีการ เพื่อหารายการของคุณตามรูปแบบแผนภูมิแบบเดิม ๆ เช่น Bull Flags และ Rubber Band Snap Backs โมเมนตัมกลยุทธ์การซื้อขายวันที่ 3 ใช้กลยุทธ์การเทรดดิ้งแอ็กเซสเมนต์อารมณ์ของคุณนักเรียนส่วนใหญ่ของเราใช้ทั้งกลยุทธ์โมเมนตัมหรือการกลับรายการของฉัน เมื่อคุณเลือกแบบที่เหมาะสมกับระดับทักษะความสามารถในการจัดการความเสี่ยงและช่วงเวลาที่คุณวางแผนที่จะทำการค้าคุณก็พร้อมที่จะเริ่มต้นแล้ว นักเรียนในหลักสูตรการซื้อขายวันของเราสามารถดาวน์โหลดเอกสารแผนการซื้อขายของเราเป็นลายลักษณ์อักษรและ I8217m สามารถดูแลพวกเขาขณะที่กำลังซื้อขายอยู่ วางแผนที่จะซื้อขายกลยุทธ์นี้ในบัญชีการค้าแบบจำลองเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อทดสอบทักษะของคุณ วัตถุของคุณจะเป็นไปตามเปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จ (หรือความแม่นยำ) อย่างน้อย 60. คุณต้องมีอัตราส่วนการสูญเสียกำไรอย่างน้อย 1: 1 (ผู้ชนะมีขนาดเท่ากับผู้แพ้) หากคุณสามารถบรรลุสถิติเหล่านี้ได้คุณจะได้ตำแหน่งที่ดีในการค้าขาย ในช่วง 1 เดือนของการปฏิบัติพยายามที่จะใช้เวลา 6 การค้าต่อวัน กลยุทธ์การเทรดดิ้งยุทธวิธีการซื้อขายวันเพื่อรักษาความสงบในขณะที่เทรดดิ้งวันฉันยอมรับว่ามันยากมากที่จะบรรลุระดับของความสงบที่จะขายเมื่อคุณกดขาดทุนสูงสุดของคุณในการค้า ไม่มีใครอยากเสีย แต่ผู้ค้าที่ดีที่สุดคือผู้แพ้ที่ยิ่งใหญ่ พวกเขายอมรับความสูญเสียของพวกเขาด้วยความสง่างามและก้าวต่อไปสู่การค้าขายครั้งต่อไป พวกเขาไม่อนุญาตให้การค้าหนึ่งครั้งสามารถทำลายบัญชีหรืออาชีพของพวกเขาได้ ผมเองมุ่งความสนใจไปที่การยอมรับความสูญเสียขนาดเล็กและไม่ปล่อยให้พวกเขาทำให้ผมผิดหวัง การเรียนรู้ลักษณะนี้จะทำให้ธุรกิจของพวกเขาเป็นผู้ประกอบการค้ารายวันเป็นเวลานาน เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของคุณคือการปฏิบัติตามกฎการสูญเสียสูงสุดของคุณดังนั้นคุณจึงไม่มีวันสูญเสียที่เกินจำนวนที่กำหนดไว้ ทักษะที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องเรียนรู้คือการลดการสูญเสียของคุณ 4. ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ผู้สูญเสียรายย่อยขนาดเล็กต้องการการปรับขนาดเรียนรู้วิธีปรับขนาดและปรับขนาดของธุรกิจการค้าวันของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่นักพัฒนารายย่อยจะต้องพัฒนา เมื่อฉันได้ชนะการค้าฉันออกจากตำแหน่งที่จะทำกำไรและปรับหยุดที่จะทำลายได้โดยเร็วที่สุด ฉันไม่เคยมีตำแหน่งที่บรรลุเป้าหมายกำไรและหวังว่าจะเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ เหตุผลก็เพราะราคาที่ลดลงบ่อยๆและคุณจะเลิกทำกำไรนั่นเอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ I8217ve ก็บรรลุเป้าหมายกำไรแรกของฉัน (ถ้า I8217m เสี่ยง 100 จากนั้นทันทีที่ I8217m ขึ้น 100) I8217 จะขายตำแหน่งของฉัน 12 และตั้งเวลาหยุดพักที่ breakeven วิธีการปรับขนาดนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลกำไรเล็ก ๆ ในธุรกิจการค้าทั้งหมดที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในความโปรดปรานของคุณจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ดีขึ้น เรื่องราวความสำเร็จของนักเรียนคนหนึ่ง 5. การกดปุ่มเป้าหมายกำไรประจำวันการสูญเสียกำไรสมมติว่าคุณใช้เวลา 6 วันทำการโดยมีเป้าหมายขาดทุนสูงสุด 100 และเป้าหมายกำไร 100 รายการ ถ้าแพ้ 2 และคุณชนะ 4 (ประมาณ 65 อัตราความสำเร็จ) และลง 200 เมื่อแพ้และขึ้น 400 เมื่อผู้ชนะทำให้คุณมีกำไรสุทธิ 200 วัน เราต้องการให้นักเรียนเสี่ยง 100 เพื่อให้ได้ 200 ซึ่งจะทำให้คุณมีอัตราส่วนการสูญเสียกำไร 2: 1 อีกครั้งกับ 6 ธุรกิจการค้าและอัตราการสูญเสียกำไร 2: 1 ผู้แพ้ 2 รายของคุณจะยังคงลดลง 200 คน แต่ผู้ชนะ 4 รายของคุณจะได้รับผลกำไร 800 รายทำให้คุณมีกำไรสุทธิ 600 เหรียญ ด้วยเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จเช่นเดียวกันหากคุณสามารถเพิ่มอัตราส่วนการสูญเสียกำไรได้คุณจะทำเงินได้มากขึ้นเมื่อคุณบรรลุเป้าหมายรายวันแล้วให้ลดตำแหน่งลงเพื่อให้คุณไม่เสียเป้าหมาย เสร็จวันเขียวและทำอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ 6. รักษาความถูกต้องของคุณโดยการรักษาวินัยตราบเท่าที่คุณสามารถรักษาความถูกต้องได้อย่างน้อย 60 และรักษาอัตราการสูญเสียกำไรไว้อย่างน้อย 1: 1 คุณสามารถเป็นผู้ประกอบการที่ทำกำไรได้ เมื่อเวลาผ่านไปความถูกต้องจะดีขึ้นและคุณจะพบว่าตัวเองโดนผู้ชนะออกจากประตู บางวันคุณอาจจะค้าขายที่ประสบความสำเร็จ 100 กับผู้ชนะใน 6 ธุรกิจการค้าทั้งหมดที่คุณทำ ถ้าคุณวางแผนที่จะประสบความสำเร็จคุณต้องปฏิบัติตามแผนการค้าของคุณ นั่นหมายถึงเฉพาะการค้าที่ตกอยู่ในยุทธศาสตร์ของคุณเท่านั้น บางครั้งผู้ค้าเริ่มต้นเริ่มได้รับความเชื่อมั่นและทำธุรกิจนอกกลยุทธ์ที่ดีที่สุด ทำให้ความแม่นยำในการลดลงและอัตราการสูญเสียกำไรของพวกเขาไปเป็นลบ มุ่งเน้นเป้าหมายระยะสั้นคุณเป้าหมายวันนี้คือการใช้ 6 ธุรกิจการค้าที่มีความถูกต้อง 60 และอัตราส่วนการสูญเสียกำไร 1: 1 ล้างและทำซ้ำ That8217s ตั๋วไปสู่ความสำเร็จ ก่อนที่คุณจะรู้ว่าคุณจะมี 3-4 เดือนของการซื้อขายที่สอดคล้องกันภายใต้เข็มขัดของคุณ 7. การเพิ่มขนาดตำแหน่งสำหรับนักเรียนส่วนใหญ่เมื่อความถูกต้องแม่นยำของเขาได้รับการปรับปรุงแล้วขั้นต่อไปคือการเพิ่มขนาดตำแหน่งเพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุด หาก you8217 ได้รับการซื้อขายที่ 65 สำเร็จด้วยอัตราการสูญเสียกำไร 1: 1 หรือ 2: 1 เป็นเวลาอย่างน้อยสองถึงสามเดือนคุณน่าจะเริ่มรู้สึกมั่นใจ ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเพิ่มขนาดตำแหน่งของคุณ ตั้งแต่ you8217ve ทำงานกับการสูญเสียสูงสุด 100, you8217ve อาจไม่ค่อยเกิน 2000 หุ้น ตอนนี้ถ้าเราเพิ่มการสูญเสียสูงสุดของคุณเป็น 150 คุณสามารถเริ่มเข้าร่วมในตำแหน่งขนาดใหญ่และเป้าหมายรายวันที่ใหญ่ขึ้นได้ โปรดจำไว้ว่าเป้าหมายรายวันของคุณคือ 2 เท่าของการสูญเสียสูงสุดต่อการค้า ดังนั้นหากการสูญเสียสูงสุดของคุณคือ 100 เป้าหมายของคุณทุกวันคือ 200 การสูญเสียสูงสุดคือ 150 เป้าหมายรายวันคือ 300 ส่วนตัวสูญเสียสูงสุดของฉันคือ 500 และเป้าหมายรายวันของฉันคือ 1000 ฉันรู้ว่านักเรียนบางคนที่มีการสูญเสียสูงสุดเท่าที่ 5kday แม้ว่ากลยุทธ์นี้จะยากที่จะจินตนาการได้แล้วก็ตามศักยภาพของกลยุทธ์ที่สามารถปรับขนาดได้กลยุทธ์ทั้งหมดที่เราสอนจะสามารถปรับขนาดได้ไม่ว่าคุณจะทำการค้ากับบัญชี 5k บัญชี 50k หรือบัญชี 500k กลยุทธ์เหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์ได้ What8217s ถัดไปในวันเดินทางการค้าของคุณตอนนี้ I8217ve สอนคุณ 7 ขั้นตอนของฉันเพื่อซื้อขายความสำเร็จคุณอาจสงสัย what8217s ต่อไปฉันจะสนับสนุนให้คุณเข้าร่วม webinar สดกับฉันเพื่อให้คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การค้าของฉัน คุณสามารถคลิกที่นี่เพื่อเข้าร่วมการสัมมนาทางเว็บครั้งต่อไปของฉัน และตรวจดูให้แน่ใจว่าในขณะเดียวกันคุณจะเฝ้าดู YouTube เอาเนื้อหาฟรีมาให้เพื่อช่วยให้ผู้ค้าเริ่มต้นเริ่มต้นใช้งาน หากคุณพร้อมที่จะกระโดดด้วยเท้าทั้งสองข้างแล้วเราพร้อมที่จะสอนคุณสามารถเข้าร่วมห้องแชทหลักสูตรการค้าหรือเริ่มฝึกฝนทักษะในการจำลองการซื้อขายในตลาดเรียลไทม์ของเราหวังว่าจะได้พบคุณในห้องสนทนาทุกวันกลยุทธ์การซื้อขายสำหรับ ซื้อขายวันเริ่มต้นคือการกระทำการซื้อและขายหุ้นภายในวันเดียวกัน ผู้ค้ารายวันแสวงหาผลกำไรด้วยการใช้ประโยชน์จากเงินทุนจำนวนมากเพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในหุ้นหรือดัชนีที่มีสภาพคล่องสูง การซื้อขายวันอาจเป็นเกมที่อันตรายสำหรับผู้ค้ารายใหม่หรือผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามวิธีที่คิดอย่างดี ลองดูกลยุทธ์การซื้อขายทั่วไปบางวันที่สามารถใช้โดยผู้ค้าปลีก (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่: บทช่วยสอน: บทนำการวิเคราะห์ทางเทคนิค.) กลยุทธ์การรับหลักทรัพย์บางประเภทเป็นผู้สมัครที่เหมาะสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ในวัน พ่อค้ารายวันทั่วไปมองหาสองสิ่งใน stockliidity และความผันผวน สภาพคล่องช่วยให้คุณสามารถเข้าและออกจากสต็อกได้ในราคาที่ดี (เช่น Spread ตึงตัวหรือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอของหุ้นและความผันผวนต่ำหรือความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังของการค้ากับราคาที่แท้จริง a. หุ้นเทรดที่) ความผันผวนเป็นเพียงการวัดราคารายวันที่คาดว่าจะเป็นช่วง rangethe ซึ่งมีผู้ประกอบการรายวันทำงาน ความผันผวนมากขึ้นหมายถึงกำไรหรือขาดทุนมากขึ้น (หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่การซื้อขายวัน: บทแนะนำหรือโฟเร็กวิว: Foreign Exchange) เมื่อคุณทราบว่าคุณกำลังมองหาหุ้นประเภทใดคุณจะต้องเรียนรู้วิธีระบุจุดเข้าใช้งานที่เป็นไปได้ มีสามเครื่องมือที่คุณสามารถใช้ในการทำเช่นนี้ ได้แก่ แผนภูมิแท่งเทียนในวันที่ เทียนแสดงการวิเคราะห์ราคาวัตถุดิบ คำแนะนำระดับ IIECN ระดับ II และ ECN ให้คำแนะนำในการสั่งซื้อตามที่เกิดขึ้น บริการข่าวเรียลไทม์ ข่าวย้ายหุ้นบริการดังกล่าวบอกคุณเมื่อข่าวออกมา เมื่อพิจารณาแผนภูมิเชิงเทียนระหว่างวันให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้: มีการตั้งค่าเชิงเทียนหลายแบบที่เราสามารถหาจุดเริ่มต้นได้ หากใช้อย่างถูกต้องรูปแบบการกลับรายการ doji (เน้นสีเหลืองในรูปที่ 1) เป็นรูปที่น่าเชื่อถือที่สุด ภาพที่ 1: มองที่เชิงเทียน - doji ที่ไฮไลต์สัญญาณการกลับรายการ โดยปกติเราจะมองหารูปแบบเช่นนี้ด้วยการยืนยันหลายประการ: อันดับแรกเรามองหาการเพิ่มระดับเสียง ซึ่งจะแสดงให้เราเห็นว่าผู้ค้าจะสนับสนุนราคาในระดับนี้หรือไม่ โปรดทราบว่านี่อาจเป็นได้ทั้งบนเทียนเทียนหรือเทียนไขทันที ประการที่สองเรามองหาการสนับสนุนก่อนหน้าในระดับราคานี้ ตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้ต่ำ (LOD) หรือสูงของวัน (HOD) สุดท้ายเราจะดูสถานการณ์ระดับ II ซึ่งจะแสดงคำสั่งซื้อและขนาดคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เปิดอยู่ ถ้าเราทำตามขั้นตอนสามขั้นตอนนี้เราสามารถระบุได้ว่า doji มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการตอบสนองจริงหรือไม่และเราสามารถดำรงตำแหน่งได้หากเงื่อนไขเป็นไปในทิศทางที่ดี (ดูข้อมูลเพิ่มเติมใน Forex Walkthrough: Chart Basics (Candlesticks)) การหาเป้าหมายการกำหนดเป้าหมายราคาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการซื้อขายของคุณ นี่คือภาพรวมคร่าวๆของกลยุทธ์การซื้อขายวันทั่วไปบางส่วน: การสแกนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งเกี่ยวข้องกับการขายเกือบจะทันทีหลังจากที่การค้ากลายเป็นผลกำไร ที่นี่เป้าหมายราคาเห็นได้ชัดก็คือเมื่อบรรลุผลกำไรแล้ว Fading เกี่ยวข้องกับการลัดวงจรหุ้นหลังจากที่ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เป็นข้อสันนิษฐานว่า (1) เป็นการซื้อที่มากเกินไป (2) ผู้ซื้อรายแรกพร้อมที่จะเริ่มรับผลกำไรและ (3) ผู้ซื้อที่มีอยู่อาจกลัว แม้ว่าจะมีความเสี่ยง แต่กลยุทธ์นี้จะคุ้มค่ามาก ที่นี่เป้าหมายราคาคือเมื่อผู้ซื้อเริ่มก้าวเข้ามาอีกครั้ง กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากความผันผวนของหุ้นในแต่ละวัน นี้ทำโดยพยายามที่จะซื้อที่ต่ำในวันและขายที่สูงของวัน ที่นี่เป้าหมายราคาเป็นเพียงที่สัญญาณถัดไปของการกลับรายการโดยใช้รูปแบบเช่นเดียวกับข้างต้น กลยุทธ์นี้มักเกี่ยวข้องกับการซื้อขายในข่าวประชาสัมพันธ์หรือการหาแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งโดยได้รับการสนับสนุนจากปริมาณมาก ผู้ประกอบการโมเมนตัมประเภทหนึ่งจะซื้อในข่าวประชาสัมพันธ์และเทรนด์จนกว่าจะมีสัญญาณของการกลับรายการ ประเภทอื่น ๆ จะจางหายไปกระชากราคา ที่นี่ราคาเป้าหมายคือเมื่อปริมาณการเริ่มต้นลดลงและขาลงเทียนเริ่มปรากฏขึ้น คุณสามารถเห็นได้ว่าในขณะที่รายการในกลยุทธ์การซื้อขายวันโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับเครื่องมือเดียวกันที่ใช้ในการซื้อขายทั่วไปความแตกต่างหลักจะหมุนไปรอบ ๆ เมื่อเวลาที่เหมาะสมในการออกคือ ในกรณีส่วนใหญ่คุณจะต้องการออกจากเมื่อความสนใจในหุ้นลดลงตามที่ระบุไว้ในระดับ IIECN และระดับเสียง (สำหรับอ่านเพิ่มเติมโปรดดูที่บทนำเกี่ยวกับประเภทของการซื้อขาย: การซื้อขายโมเมนตัมและการแนะนำประเภทการซื้อขาย: Scalpers.) การกำหนด Stop Loss เมื่อคุณทำการค้าขายกับ margin คุณมีความเสี่ยงที่จะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงกว่าผู้ค้าทั่วไป ดังนั้นการใช้ stop-loss ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ จำกัด การสูญเสียตำแหน่งในการรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญเมื่อวันซื้อขาย กลยุทธ์หนึ่งคือการตั้งค่าการสูญเสียทั้งสองจุด: 1. คำสั่งหยุดขาดทุนทางกายภาพที่อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของคุณ เป็นหลักนี้เป็นส่วนใหญ่ที่คุณต้องการจะสูญเสีย 2. การตั้งค่าการหยุดการทำงานของจิตที่จุดที่เกณฑ์การเข้าร่วมของคุณถูกละเมิด ซึ่งหมายความว่าหากการค้าทำให้การหมุนที่ไม่คาดคิดคุณจะออกจากตำแหน่งทันที ผู้ค้าปลีกรายวันมักมีกฎอีกอย่างหนึ่ง: ตั้งค่าขาดทุนสูงสุดต่อวันที่คุณสามารถจ่ายได้ทั้งทางการเงินและทางจิตใจเพื่อให้ทนต่อ เมื่อใดก็ตามที่คุณกดจุดนี้ใช้เวลาที่เหลือของวันออก ผู้ค้าที่ไม่มีประสบการณ์มักจะรู้สึกว่าต้องสร้างความสูญเสียก่อนวันสิ้นสุดและท้ายที่สุดก็เสี่ยงต่อความไม่จำเป็น (เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดดูที่คำสั่ง Stop Loss เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้) การประเมินประสิทธิภาพการปรับแต่งหลายคนได้รับในการซื้อขายวันที่คาดหวังให้ผลตอบแทนสามหลักทุกปีด้วยความพยายามน้อยที่สุด ในความเป็นจริงผู้ค้าหลายวันเสียเงิน อย่างไรก็ตามคุณสามารถเพิ่มโอกาสในการตีราคาโดยใช้กลยุทธ์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนซึ่งคุณพอใจ ดังนั้นคุณจะประเมินประสิทธิภาพอย่างไรผู้ค้ารายวันส่วนใหญ่ทำไม่ได้มากนักโดยการติดตามเปอร์เซ็นต์ของกำไรหรือขาดทุน แต่ด้วยความยึดมั่นในกลยุทธ์ของแต่ละบุคคลอย่างใกล้ชิด ในความเป็นจริงการทำตามกลยุทธ์ของคุณอย่างใกล้ชิดมากกว่าการพยายามไล่ล่าผลกำไรเป็นเรื่องสำคัญมาก การเก็บข้อมูลนี้เป็นความคิดของคุณช่วยให้คุณสามารถระบุปัญหาที่มีอยู่และวิธีแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น การซื้อขายช่วงล่างเป็นทักษะที่ยากในการควบคุม เป็นผลให้หลายคนที่พยายามจะล้มเหลว แต่เทคนิคที่อธิบายไว้ข้างต้นสามารถช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้และมีการปฏิบัติที่เพียงพอและมีการประเมินประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอคุณสามารถเพิ่มโอกาสในการตีราคาได้อย่างมาก (สำหรับการอ่านที่เกี่ยวข้องโปรดดูที่: คุณจะได้กำไรเป็นผู้ประกอบการรายวันหรือไม่) เบต้าเป็นตัวชี้วัดความผันผวนหรือความเสี่ยงอย่างเป็นระบบของการรักษาความปลอดภัยหรือผลงานเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ประเภทของภาษีที่เรียกเก็บจากเงินทุนที่เกิดจากบุคคลและ บริษัท กำไรจากการลงทุนเป็นผลกำไรที่นักลงทุนลงทุน คำสั่งซื้อความปลอดภัยที่ต่ำกว่าหรือต่ำกว่าราคาที่ระบุ คำสั่งซื้อวงเงินอนุญาตให้ผู้ค้าและนักลงทุนระบุ กฎสรรพากรภายใน (Internal Internal Revenue Service หรือ IRS) ที่อนุญาตให้มีการถอนเงินที่ปลอดจากบัญชี IRA กฎกำหนดให้ การขายหุ้นครั้งแรกโดย บริษัท เอกชนต่อสาธารณชน การเสนอขายหุ้นหรือไอพีโอมักจะออกโดย บริษัท ขนาดเล็กที่มีอายุน้อยกว่าที่แสวงหา อัตราส่วนหนี้สิน DebtEquity Ratio คืออัตราส่วนหนี้สินที่ใช้ในการวัดแรงกดดันทางการเงินของ บริษัท หรืออัตราส่วนหนี้สินที่ใช้วัดแต่ละบุคคลใน 5 กลยุทธ์การค้ายอดนิยมบทความนี้จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ทางการค้าที่ใช้กันมากที่สุดและวิธีที่คุณสามารถวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของ แต่ละคนตัดสินใจว่าดีที่สุดสำหรับรูปแบบการซื้อขายส่วนตัวของคุณ ด้านบนห้ากลยุทธ์ที่เราจะครอบคลุมดังต่อไปนี้ Breakouts เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้กันมากที่สุดในตลาดเพื่อการค้า ประกอบด้วยการระบุระดับราคาที่สำคัญแล้วซื้อหรือขายในราคาที่แตกต่างกันไปตามระดับที่กำหนด ความคาดหวังคือถ้าราคามีแรงพอที่จะทำลายระดับได้ก็จะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นต่อไป แนวความคิดของการฝ่าวงล้อมค่อนข้างง่ายและต้องอาศัยความเข้าใจในการสนับสนุนและความต้านทานในระดับปานกลาง เมื่อตลาดมีแนวโน้มและเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวการเฝ้าระวังจะทำให้คุณไม่พลาดการย้าย โดยทั่วไปจะมีการใช้สิวเมื่อตลาดมีอยู่แล้วหรืออยู่ใกล้ระดับต่ำสุดที่สูงมากในช่วงที่ผ่านมา ความคาดหวังคือราคาจะยังคงเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มและทำลายสถิติที่สูงมากและดำเนินต่อไป ด้วยเหตุนี้การค้าขายจึงทำได้เพียงแค่สั่งซื้อที่สูงหรือต่ำกว่าระดับต่ำเพื่อให้การค้าได้รับการป้อนโดยอัตโนมัติเมื่อราคาเคลื่อนขึ้น เหล่านี้เรียกว่าใบสั่งซื้อแบบ จำกัด เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะหลีกเลี่ยง breakouts การค้าเมื่อตลาดไม่ได้มีแนวโน้มเพราะจะส่งผลให้เกิดการค้าเท็จที่ทำให้เกิดการสูญเสีย สาเหตุของความสูญเสียเหล่านี้คือตลาดไม่มีโมเมนตัมในการดำเนินการต่อไปเกินกว่าเหตุสุดวิสัยและระดับต่ำสุด เมื่อราคากระทบกับพื้นที่เหล่านี้มักลดลงไปในช่วงก่อนหน้าซึ่งส่งผลให้ผู้ค้ารายใดพยายามที่จะระงับการเคลื่อนไหว การระงับการเกษียณอายุต้องมีการตั้งค่าทักษะที่แตกต่างกันเล็กน้อยและหมุนเวียนไปรอบ ๆ ตัวผู้ขายซึ่งระบุทิศทางที่ชัดเจนสำหรับราคาที่จะย้ายเข้าไปอยู่และมั่นใจว่าราคาจะยังคงย้ายมาอยู่ต่อไปกลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ว่าหลังจากการย้ายแต่ละครั้งในทิศทางที่คาดไว้, ราคาจะเป็นการย้อนกลับชั่วคราวเนื่องจากผู้ค้าทำกำไรได้และผู้เข้าร่วมการฝึกสามเณรพยายามซื้อขายในทิศทางตรงกันข้าม เหล่านี้ดึงหลังหรือ retracements จริงเสนอนักค้ามืออาชีพด้วยราคาที่ดีมากที่จะใส่ในทิศทางเดิมเพียงก่อนที่จะต่อเนื่องของการย้าย ขณะที่มีการซื้อขายเสนคาเสนคาเสนคาแนวรับและความต้านทาน การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อขายประเภทนี้ เมื่อการย้ายครั้งแรกเกิดขึ้นผู้ค้าจะได้ทราบถึงระดับราคาต่างๆที่ได้รับการละเมิดในการย้ายครั้งแรก พวกเขาให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับระดับการสนับสนุนและความต้านทานที่สำคัญและพื้นที่ในแผนภูมิราคาเช่นระดับ 00 นี่คือระดับที่พวกเขาจะมองหาเพื่อซื้อหรือขายต่อจากนี้ การรื้อถอนใช้เฉพาะกับผู้ค้าในช่วงเวลาที่ความเชื่อมั่นในระยะสั้นเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและข่าว ข่าวนี้อาจทำให้เกิดแรงกระแทกชั่วคราวไปสู่ตลาดซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกลับรายการในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามทิศทางเดิม เหตุผลเบื้องต้นสำหรับการย้ายอาจยังคงอยู่ในสถานที่ แต่เหตุการณ์ระยะสั้นอาจทำให้นักลงทุนที่จะกลายเป็นประสาทและใช้ผลกำไรของพวกเขาซึ่งจะทำให้เกิดการ retracement เนื่องจากเงื่อนไขเริ่มแรกยังคงอยู่นี้ทำให้นักลงทุนมืออาชีพรายอื่นมีโอกาสกลับเข้ามาในราคาที่ดีขึ้นซึ่งบ่อยครั้งมาก การค้าขายโดยปกติจะไม่ได้ผลเมื่อไม่มีเหตุผลพื้นฐานที่ชัดเจนสำหรับการย้ายในครั้งแรก ดังนั้นหากคุณเห็นการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ แต่ไม่สามารถระบุเหตุผลพื้นฐานที่ชัดเจนสำหรับการย้ายนี้ทิศทางสามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วและสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นจริงสามารถเปิดออกเป็นย้ายใหม่ในทิศทางตรงกันข้าม 1313 เมื่อพูดถึงการเงินส่วนบุคคลและการสะสมของความมั่งคั่งมีเพียงไม่กี่วิชาที่พูดถึงมากกว่าหุ้น มันง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม: เล่นตลาดหุ้นเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่ในการนั่งรถไฟเหาะตีลังกาทางการเงินนี้เราทุกคนต้องการประสบการณ์การเดินทางโดยไม่ต้องดาวน์ ในบทแนะนำนี้เราจะตรวจสอบกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการค้นหาหุ้นที่ดี (หรืออย่างน้อยที่สุดหลีกเลี่ยงหุ้นที่ไม่ดี) กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการสำรวจศิลปะการเก็บสต็อค - การเลือกหุ้นตามเกณฑ์บางอย่างโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของตลาด ก่อนที่จะสำรวจโลกกว้างใหญ่ของวิธีการเลือกสต็อกเราควรกล่าวถึงความเข้าใจผิดบางประการ นักลงทุนจำนวนมากที่เพิ่งเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกซื้อหุ้นเชื่อว่ามีกลยุทธ์ที่ไม่แน่นอนที่จะปฏิบัติตามได้สำเร็จ ไม่มีระบบที่ไม่สามารถจะเข้าใจผิดได้ในการเลือกหุ้นหากคุณกำลังอ่านบทแนะนำนี้ในการค้นหาคีย์วิเศษเพื่อปลดล็อกความมั่งคั่งในทันทีขอโทษ แต่เราไม่ทราบว่าไม่มีคีย์ดังกล่าว นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณลาดเทขยายความมั่งคั่งของคุณผ่านการลงทุนในตลาดหุ้น ดีกว่าที่จะคิดว่าการเก็บสะสมเป็นศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์ มีเหตุผลหลายประการดังนี้: 131. ปัจจัยหลายอย่างมีผลต่อสุขภาพของ บริษัท ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างสูตรที่จะทำนายความสำเร็จ เป็นสิ่งหนึ่งที่รวบรวมข้อมูลที่คุณสามารถใช้งานได้ แต่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะกำหนดว่าตัวเลขใดมีความเกี่ยวข้อง 132. ข้อมูลจำนวนมากไม่มีตัวตนและไม่สามารถวัดได้ ด้านเชิงปริมาณของ บริษัท เช่นผลกำไรหาได้ง่าย แต่คุณจะวัดปัจจัยด้านคุณภาพเช่นพนักงานของ บริษัท เปรียบในการแข่งขันชื่อเสียงและอื่น ๆ การรวมกันของรูปลักษณ์และสิ่งที่จับต้องได้เหล่านี้ทำให้การเลือกหุ้นเป็นไปในเชิงอัตนัยและใช้งานได้ง่าย 133. เนื่องจากองค์ประกอบของมนุษย์ (มักไม่สมเหตุผล) ที่มีอยู่ในกองกำลังที่เคลื่อนไหวตลาดหุ้นหุ้นไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณคาดหวังไว้เสมอ อารมณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและไม่อาจคาดเดาได้ และน่าเสียดายที่เมื่อความเชื่อมั่นกลายเป็นความกลัวตลาดหุ้นอาจเป็นสถานที่ที่อันตราย บรรทัดล่างคือไม่มีทางเลือกหุ้น ดีกว่าที่คิดทุกกลยุทธ์หุ้นเป็นอะไรมากไปกว่าการประยุกต์ใช้ทฤษฎี - เดาที่ดีที่สุดของวิธีการลงทุน และบางครั้งสองทฤษฎีที่เห็นได้ชัดอาจจะประสบความสำเร็จในเวลาเดียวกัน บางทีก็สำคัญพอ ๆ กับการพิจารณาทฤษฎีการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับมุมมองส่วนตัวกรอบเวลาความเสี่ยงและระยะเวลาที่คุณต้องการทุ่มเทให้กับการลงทุนและการเลือกหุ้น เมื่อถึงจุดนี้คุณอาจถามตัวเองว่าเหตุใดการเลือกสต็อกจึงมีความสำคัญ ทำไมต้องกังวลกับเรื่องนี้ทำไมต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงทำคำตอบง่ายๆคือความมั่งคั่ง หากคุณกลายเป็นผู้ถือหุ้นที่ดีคุณสามารถเพิ่มความมั่งคั่งส่วนบุคคลของคุณเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น Microsoft คุณเคยลงทุนผลิตบิลเลียดของ Bill Gates ในการขายหุ้นไอพีโอเมื่อปีพศ. 2529 และถือได้ว่าการลงทุนครั้งนี้การกลับมาของคุณจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในบริเวณใกล้เคียง 35,000 ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2547 หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งในช่วงระยะเวลา 18 ปีการลงทุนประมาณ 10,000 ได้กลายเป็นเย็น 3.5 ล้าน (ในความเป็นจริงคุณมีความสุขุมนี้ในตลาดวัวของปลาย 90s, ผลตอบแทนของคุณอาจได้รับยิ่งใหญ่.) ด้วยผลตอบแทนเช่นนี้ไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนยังคงล่าสำหรับ Microsoft ถัดไป โดยไม่ต้องกังวลใจต่อไปให้เริ่มต้นด้วยการเจาะลึกลงไปในแง่มุมพื้นฐานและสำคัญที่สุดประการหนึ่งของการเลือกหุ้น: การวิเคราะห์พื้นฐาน ทฤษฎีที่มีอยู่ทั้งหมดของกลยุทธ์ที่เราสำรวจในบทแนะนำนี้ (ยกเว้นส่วนสุดท้ายในการวิเคราะห์ทางเทคนิค) แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันหลายอย่างระหว่างแต่ละกลยุทธ์พวกเขาทั้งหมดลงมาเพื่อค้นหาคุณค่าของ บริษัท เก็บไว้ในใจเมื่อเราก้าวไปข้างหน้า